ผลการทดลองใช้แบบฝึกการอ่านภาษาไทย โดยการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน
ของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การเรียนชุมชน ตำบลโพนบก
อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
รายงานผลการวิจัย
ผลการทดลองใช้แบบฝึกการอ่านภาษาไทย โดยการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน
ของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การเรียนชุมชน ตำบลโพนบก
อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
นางสาวกันตินันท์ ลีสี
ครูศูนย์การเรียนชุมชนบ้านเหล่าบะดา ตำบลโพนบก
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอโพนสวรรค์
จังหวัดนครพนม
รายงานผลการวิจัย
ผลการทดลองใช้แบบฝึกการอ่านภาษาไทย โดยการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน
ของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การเรียนชุมชน ตำบลโพนบก
อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
1 ชื่อปัญหาการวิจัย
การพัฒนาการอ่านภาษาไทย โดยการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การเรียนชุมชน ตำบลโพนบก อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
2. ความสำคัญของปัญหา
ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ เป็นเครื่องมือที่คนไทยใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เป็นสื่อในการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ภาษาไทยเป็นวิชาในการหลักสูตรกลุ่มวิชาพื้นฐานที่กำหนดให้นักศึกษาต้องเรียน เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และมีทักษะในการใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ปลูกจิตสำนึกให้ภาคภูมิใจในภาษาไทย
การอ่านภาษาไทย เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนฝึกปฎิบัติ คิดเป็น ทำเป็น วิเคราะห์นำมาใช้พัฒนาตนเอง และพัฒนาประเทศ เพราะการอ่าน คือหัวใจของการพัฒนาทักษะทางภาษาในทุกๆด้าน
3. ปัญหาการวิจัย
การเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน จะช่วยให้นักศึกษาที่อ่านไม่ออก ไม่เข้าใจเรื่องที่อ่าน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้นได้หรือไม่
4. วัตถุประสงค์
4.1 เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาไทย
4.2 นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- มีแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาไทยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีประสิทธิภาพ
6. วิธีการดำเนินการวิจัย/วิธีการดำเนินการแก้ปัญหา
6.1 ประชากร/กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา
ประชากร คือ นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิธีเรียนพบกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียน ภาคเรียนที่ 2/2552 หมวดวิชาภาษาไทย จำนวน 42 คน
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิธีเรียนพบกลุ่มที่ลงทะเบียนเรียน ภาคเรียนที่ 2/2552 หมวดวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2/2552 จำนวน 15 คน
6.2 เครื่องมือที่ใช้
ก. เครื่องมือในการแก้ปัญหา/แนวทางแก้ปัญหา
- แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย
ข. เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล
- แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
6.3 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
- ผู้วิจัยเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยใช้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
เก็บรวบรวมข้อมูลจาก นักศึกษา กศน.ตำบลท่าค้อ จำนวน 15 คน
6.4 สถิติที่ใช้และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
- ค่าเฉลี่ย
- ค่าร้อยละ
7. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1.1 คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าในการทดลองใช้แบบฝึกการอ่าน
ตารางที่ 1 ค่าสถิติพื้นฐานความสามารถในการอ่านของ นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การเรียนชุมชน ตำบลโพนบก
คน จากการทดสอบ 2 ครั้ง (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
การวิเคราะห์ข้อมูล
เปรียบเทียบผลก่อนเรียนและหลังเรียน ( N=15 )
นักศึกษาคนที่ คะแนนก่อนเรียน
(x1) คะแนนหลังเรียน
(x2) คะแนนความก้าวหน้า
( x1-x2)
1 4 8 +4
2 4 7 +3
3 4 8 +4
4 5 9 +4
5 4 7 +3
6 4 7 +3
7 3 8 +5
8 4 8 +4
9 4 8 +4
10 3 7 +4
11 3 8 +5
12 4 8 +4
13 4 9 +5
14 3 8 +5
15 4 8 +4
คะแนนรวม 57 116 +59
คะแนนเฉลี่ย 3.80 7.73 3.93
กำหนดการแปรผลความก้าวของผู้เรียนรู้ หรือผลการพัฒนาไว้ที่ร้อยละ 20 หรือ 25 ขึ้นไป
ร้อยความก้าวหน้า = 7.73-3.80 ×100 = 39.30
10
จากตาราง พบว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนทดลองใช้แบบฝึกเท่ากับ 3.80 คะแนน เฉลี่ยหลังใช้แบบฝึกเท่ากับ 7.73ดังนั้นนักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.93 แสดงให้เห็นว่า หลังจากทดลองใช้แบบฝึกการอ่าน นักศึกษาพัฒนาความสามารถในการอ่านสูงขึ้นกว่าเดิมคิดเป็นร้อยละของความก้าวหน้า 39.30
8. การสะท้อนผลการวิจัย
8.1 แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ สามารถพัฒนาการอ่านของนักศึกษาได้สูงขึ้นเนื้อหามีความเหมาะสม ครอบคลุม เข้าใจง่าย ท้าทายความสามารถของนักศึกษา
8.2 นักศึกษาควรได้รับการส่งเสริม หรือได้รับการพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างต่อเนื่อง
8.3 นักศึกษาที่มีข้อบกพร่อง หรือความก้าวหน้าช้าต้องให้เวลาการฝึกเพิ่มขึ้น
8.4 นำแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการอ่านของนักศึกษาไปใช้กับสภาพปัญหาอื่น ๆที่คล้ายกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น